เราคงเคยได้ยินคนแก่คนเฒ่าพูดถึงเรื่อง ผีเปรต กันบ่อย ว่าเปรตต้องมีรูปร่างสูงโย่งเท่าต้นตาล คอยาว ผมยาว ตัวดำ ผอมโซแต่ท้องโต มีมือใหญ่เท่าใบตาล แต่มีปากเล็กเท่ารูเข็ม แต่ แต่ผีเปรตก็ไม่จำเป็นต้องสูงอย่างเดียวขึ้นอยู่กับปาบกรรมที่ทำด้วย วันนี้เราจะพาย้อนไปดูตำนานผีไทยตนนี้
เปรต หมายความว่า ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้ว หรือผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่หากกล่าวถึงในทางพุทธศาสนา เปรตจะหมายถึง สัตว์พวกหนึ่งที่เกิดในเปตสิสัยอันเป็นอบายภูมิ 1 ใน 4 ความเชื่อตั้งแต่โบราณกล่าวไว้ว่า ถ้าผู้ใดคิดร้ายพ่อแม่ผู้มีพระคุณกับตัวเอง ชาติหน้าจะต้องไปเกิดเป็นผีเปรต
ทำกรรมอะไร ถึงจะกลายเป็นเปรต ตามความเชื่อ
- เป็นคนตระหนี่ขี้เหนียว เห็นผู้ใดอดอยากมาขออาหาร ก็พาลโกรธถ่มน้ำลายใส่ด้วยความรังเกียจ หรือเข้าไปในสถานที่ที่ควรเคารพบูชา เช่น โบสถ์ วิหาร ลานพระเจดีย์ แล้วไม่มีความเคารพต่อสถานที่ ได้ถ่มเสลดน้ำลายลงในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น
- เป็นมนุษย์มีความตระหนี่ เมื่อมีผู้มาขอบริจาคทาน ก็แกล้งให้ของที่ไม่ควรให้ ด้วยความปรารถนาจะแกล้งประชด ไม่เคารพในทาน
- เป็นมนุษย์ มีความตระหนี่จัด เมื่อหมู่ญาติที่ตกทุกข์ได้ยาก หรือผู้คนมาหาเพื่อขอความช่วยเหลือ ขอข้าว ขอน้ำดื่ม จะเกิดอาการขุ่นเคืองขึ้นมาทันที แล้วยังขับไล่ไสส่งให้ไปกินมูลสัตว์ ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย
- ตอนเป็นมนุษย์ มีความตระหนี่ขี้เหนียวอย่างมาก เมื่อมีใครมาขอ ครั้นจะไม่ให้ก็กลัวคนอื่นดูแคลน จึงแกล้งให้สิ่งของร้อนๆ เพื่อหวังจะแกล้งให้ผู้รับเข็ดหลาบ จะได้เลิกมาขอ
- ตอนเป็นคนหวงข้าวหวงน้ำ เที่ยวปิดสระ ปิดบ่อ ปิดหม้อ ไม่ให้คนอื่นได้ดื่มกิน
- ตอนเป็นมนุษย์ เป็นคนใจหยาบ เห็นผู้มีศีลก็โกรธเคือง มีอกุศลจิตคิดว่า ท่านเหล่านั้นจะมาขอของตน จึงแสดงกิริยาอาการเยาะเย้ยถากถาง ขับไล่คนเหล่านั้นให้ได้รับความอับอาย หรือเห็นพ่อแม่เป็นคนแก่คนเฒ่า เกิดโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนเพราะความชรา แกล้งให้ท่านตกใจจะได้ตายไวๆ
- ตอนเป็นมนุษย์ชอบขูดรีดชาวบ้าน เอาเปรียบผู้อื่น หรือบางครั้งชอบรังแกหยิกข่วนบิดามารดา หรือทำร้ายคู่ครองของตนเอง
- ครั้งเป็นมนุษย์มีศรัทธาทำบุญกุศลไว้มาก แต่ไม่รักษาศีล ไม่รักษากาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ หรือเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนาได้รักษาศีลเพียงอย่างเดียว แล้วไม่มีศรัทธาในการสร้างบุญกุศลอื่น และมีความสงสัยในเรื่องบุญเรื่องบาป แม้รักษาศีลก็รักษาแบบเสียไม่ได้ หรือไม่ตั้งใจรักษา
แบ่งตามเปตวัตถุอรรถกถา แบ่งได้ 4 ประเภท
- ปรทัตตุปชีวิกเปรต คือ เปรตที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยส่วนบุญที่มีผู้อุทิศให้ หากขาดส่วนบุญจากผู้ใจบุญไป เปรตเหล่านี้ก็มักจะกินเลือดและหนองของตัวเองเป็นอาหาร
- ขุปปีปาสิกเปรต คือ เปรตที่อดอยากจนเกิดทุกข์จากความหิวโหยอยู่เสมอ
- นิชฌามตัณหิกเปรต คือ เปรตที่ถูกไฟเผาให้ลุ่มร้อนอยู่เสมอ
- กาลกัญจิกเปรต คือ เปรตที่อยู่ในจำพวกอสุรกาย

ประเภทของผีเปรต
- วันตาสาเปรต – เมื่อเห็นมนุษย์ถ่มเสลดจะดีใจไปดูดเอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นอาหาร แต่กินแล้วก็ยังหิวโหยจนกว่าจะหมดเวร เชื่อว่าชาติก่อนขี้เหนียวเห็นคนตกยากก็ถ่มเสลดใส่หรือเข้าไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ก็ถ่มใส่
- กุณปขาทาเปรต – ชอบคุ้ยหาซากศพสัตว์เน่าเหม็นกินด้วยความหิวโหย เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์ขี้เหนียวเวลามีคนมาขอทานก็ให้ของเน่าเสียเพื่อประชด
- คูถขาทาเปรต – ชอบมองหาอุจจาระของสิ่งมีชีวิตเอามาเป็นอาหาร เชื่อว่า ตอนเป็นมนุษย์พอเห็นพี่น้องมีปัญหาหรือคนมาขอความช่วยเหลือก็จะเกิดความไม่พอใจ ขับไล่ไสส่งเหมือนสัตว์ด้วยคำหยาบคาย
- อัคคิชาลมุขาเปรต – รูปร่างผอม ไฟแลบจากปากตลอดเวลาจนแสบร้อน เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์เวลามีคนมาขอก็ให้สิ่งร้อนๆ กลับไปจะได้เลิกมาขอ
- สุจิมุขาเปรต – เท้าใหญ่ คอยาว ปากเท่ารูเข็ม กินอะไรไม่ได้มาก เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์เวลาใครขออาหารก็ไม่อยากให้ หวงสมบัติ
- ตัณขาชิตาเปรต – จะเดินไปเรื่อยๆ ในการหาของกิน พอเห็นบ่อน้ำก็ดีใจ แต่พอไปถึงกลับเป็นอย่างอื่น เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์หวงข้าวปลาอาหาร ปิดหม้อไม่ให้ใครทั้งสิ้น
- นิชฌามักกาเปรต – รูปร่างเหมือนเสาต้นไม้ที่ไฟไหม้ เหม็น มือเท้าง่อย ริมฝีปากบนทับล่าง ฟันยาวมีเขี้ยวออกมา อยู่ที่เดิมตลอด เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์จิตใจหยาบในทุกด้าน เห็นคนมีศีลก็แสดงเยาะเย้ย เห็นพ่อแม่ป่วยก็ทำให้ตกใจเพื่อจะได้เสียไวๆ
- สัพพังคาเปรต – ร่างใหญ่ เล็บมือเท้ายาวคมเหมือนมีด งอเหมือนตะขอ ชอบข่วนร่างกายตัวเองกินเลือดเนื้อตัวเอง เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์ชอบเอาเปรียบคนอื่น
- ปัพพตังคาเปรต – ร่างกายใหญ่โต กลางคืนสว่างจากเปลวไฟ กลางวันควันล้อมรอบ เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์เอาไฟเผาบ้านเรือนสถานที่ต่างๆ
- อชครเปรต – คล้ายสัตว์เดรัจฉาน แต่ไฟจะไหม้ตลอดเวลา เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์เวลามีคนมีศีลมาเยี่ยมกํเปรียบเขาเหมือนสัตว์
- เวมานิกเปรต – มีวิมานทองเป็นทิพย์ เสวยสุขแค่บางเวลา เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์ทำบุญมากแต่ไม่รักษาศีลอย่างจริงจัง
- มหิทธิกาเปรต – มีฤทธิ์กับรูปร่างเหมือนเทวดา แต่อดอยากตลอด เชื่อว่าตอนเป็นมนุษย์ก็บวชแต่ใจยังเกียจคร้านต่อการบำเพ็ญเพียรต่างๆ
แล้วเปรตกินอะไรเป็นอาหาร
เปรตกินอะไรเป็นอาหารคงไม่ต้องบอก เพราะไม่รู้เหมือนกันนอกจากมีความเชื่อกันว่า เวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเปรตก็จะมารับ ส่วนบุญจากลูกหลานได้กินอิ่มหมีพีมันไปมื้อหนึ่งคราวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็อดอยากหิวโหย นอกจากพวกอาหารคาวหวานแล้ว บางทีลูกหลานจะถวายเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มแก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อให้ผีญาติๆ ของตนไม่ต้องโป๊หรือเปลือยกายล่อนจ้อน
ใครจะศรัทธาแก่กล้าถึงขนาดถวาย โทรทัศน์ มือถือ ก็ตามถนัดไม่ผิดกติกาอันใด หากไม่มีญาติหรือ ลูกหลานคอยทำอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเปรตเหล่านี้จะหิวโหย ร้องโหยหวล เสียงร้องของเปรตไม่มีใครยืนยันได้ว่าไพเราะเพราะพริ้งขนาดไหน นอกจากในบางตำรา บอกไว้ว่า มันส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆ เป็นเสียงหวิวหวีดฟังแล้วชวนวังเวง วิเวกวิโหวเหว คนล่ะอย่างกับที่พวก วัยรุ่นกรี๊ดกร๊าดเวลาเจอดารายอดนิยมหรือตอนดูคอนเสิร์ตหลังหมอชิต
ว่ากันว่าที่เสียงมันดังกรี๊ดๆ ก็เพราะเกิดจากแรงดันของลมจากท้องผ่านช่องปากที่เล็กเท่า รูเข็ม เลยกลายเป็นเสียงอย่างที่บอก แบบนี้พวกเปรตที่มีหัวเป็นไก่ก็อาจจะร้องเสียง เอก-อี้-เอ้ก-เอ้ก ก็ได้ล่ะมั้ง ถ้าใครทำบุญหากจะอุทิศก็ขอให้กล่าวหรือออกน ามพวกผีไม่มีญาติ หรือบรรดาผีๆ ทั้งหลายรวมทั้งคุณผีเปรตด้วย เพื่อที่จะได้ไม่หิวโหยร่างกายผอมโซจนน่าสงสาร
นี่เป็นเพียงความเชื่อตามฉบับแบบโบราณเท่านั้น ขอให้เพื่อนๆใช้วิจารณญานในการอ่านและตีความหมายอีกครั้งนอกจากความเชื่อเรื่องพวกนี้ เราขอเสริมเรื่องความรวยความจนสักหน่อย เห็นเขาว่ากันว่าท่องบทสวดนี้ทุกวันบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วจะรวยขึ้นชีวิตดีขึ้น ขอบอกว่าไม่จริงหรอก ถ้าจะให้จริงต้องทำมาหากินอย่างเช่นลงทุนกับเกม BIG WIN CAT ไม่กี่บาทก็หารายได้ ได้ตลอดทั้งวันแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า วิญญาณเฮี้ยนตามติด คุณตลอดเวลา