เรื่องตำนานสยองต้องยกให้ประเทศนี้เลยประเทศญี่ปุ่นที่มีทั้งเรื่องเล่าและตำนานมากมายที่สร้างความสยองและสร้างความน่ากลัวให้กับคนที่เข้าไปท้าทายหรือพบเจอกับบทความที่เราจะนำเสนอ สถานที่ญี่ปุ่นสุดสยองระดับตำนาน ไปขนลุกไปพร้อมๆกัน
เป็นการที่รวมเอาสถานที่น่ากลัวในตำนานของประเทศญี่ปุ่นมาแบ่งปันความน่ากลัวกับทุกคน เพราะแต่ละสถานที่เป็นระดับตำนานกันทั้งนั้น เลยทำให้เราได้นำ สถานที่ญี่ปุ่นสุดสยองระดับตำนาน มาบอกต่อ
สถานที่ญี่ปุ่นสุดสยองระดับตำนาน
1. Aokigahara – Yamanashi
เป็นป่าที่อยู่ริมเชิงเขาไฟฟูจิ และได้ชื่อว่าเป็นป่าอาถรรพ์ เพราะเป็นป่าที่มีการพบศพคนที่เข้ามาตั้งใจฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้นับ 100 คนต่อปี เมื่อเทียบกับอัตราการฆ่าตัวตายทั้งประเทศของญี่ปุ่นที่มีกว่า 2,000 คนต่อปี โดยร่างไร้ลมหายใจที่พบส่วนมากจะเป็นการผูกคอตัวเองไว้บนต้นไม้ บางศพที่นานจนเนื้อหนังเน่าเปื่อยก็จะเหลือเป็นโครงกระดูกร่วงมานอนเหยียดยาวที่พื้นดินแทน
เราก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมคนญี่ปุ่นเขาถึงเข้าไปฆ่าตัวตายกันได้ง่ายๆ เป็นจำนวนมากขนาดนี้ นี่อาจจะเป็นผลของอิทธิพลจากลัทธิบูชิโด ซึ่งมีความเชื่อว่า คนเราบริสุทธิ์จากความผิดได้ด้วยการฆ่าตัวตาย อันจะเห็นได้ชัดเจนจากการฮาราคีรีตัวเองของเหล่านักรบ เมื่อได้ลงมือทำร้ายตัวเองจนถึงแก่ความตายแล้ว ความผิดทั้งหมดก็จะได้รับการอภัยจากสังคม

2. Inukane Pass – Fukuoka
ทางลอดอินุคาเนะ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า อุโมงค์ชูเซ็ตสึ ( Chusetsu Tunnel ) เป็นอุโมงค์เก่าที่เลิกใช้งานมานานแล้ว ขนาดพอลอดได้แค่รถยนต์เพียงคันเดียว มีเสียงลือว่าทุกครั้งที่มีคนพยายามจะเดินเข้าไปในนี้ จะมีเสียงลึกลับกระซิบให้หยุดเสมอ ราวกับจะไม่อยากให้เข้าไปข้างใน
บ้างว่าเป็นเพราะเคยเกิดคดีฆาตกรรมในนี้ บ้างก็ว่าเคยมีหญิงสาวเชื้อสายเกาหลีอาศัยอยู่แถวนี้ช่วงก่อนสงคราม แต่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายในช่วงที่ทั้ง 2 ประเทศเริ่มเป็นปรปักษ์ต่อกัน แต่ไม่ว่าเรื่องราวจริงๆ จะเป็นอย่างไร ที่นี่ก็กลายมาเป็นจุดท้าทายความกล้ายอดนิยมของวัยรุ่น จนทางการต้องเอาบล็อคคอนกรีตมากั้นเพื่อไม่ให้มีคนเข้าไปได้อีกต่อไป

3. Oiran Buchi – Yamanashi
ท่ามกลางหน้าผาสูงชันที่ล้อมรอบแม่น้ำในเส้นถนนหลวงหมายเลข 411 นอกเมืองยามานาชิ ถึงเวลาปกติจะดูแล้วมีทัศนียภาพที่งดงามเพลิดเพลินขนาดไหน แต่ก็มีตำนานเล่าขานว่า นานมาแล้วในยุคเซ็นโกคุ ประมาณ ค.ศ. 1575 พื้นที่แถวนี้เคยมีการทำเหมืองทอง และเพื่อเป็นการสร้างความสำราญให้กับเหล่าคนงาน และผู้คุม จึงต้องมีการเปิดหอนางโลมในบริเวณใกล้เคียงขึ้น ไว้คอยปรนนิบัติในยามค่ำคืน
แต่เมื่อสงครามเริ่มรุนแรงขึ้น ผู้ครองแคว้นเดิมจึงต้องล่าถอยจากพื้นที่นี้ โดยตัดสินใจกำจัดหญิงสาวทุกคนในหอนางโลมทิ้งทั้งหมดรวมทั้งคนงานด้วย เพื่อกันไม่ให้ความลับเรื่องเหมืองทองแห่งนี้รั่วไหลไปถึงหูฝ่ายตรงข้าม เหล่าทหารจึงล่อลวงหญิงสาวทั้งหมดมาที่เวทีไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างไว้บนหน้าผาสูงชัน โดยบอกว่าอยากให้มาแสดงการร่ายรำบนนี้ เมื่อทั้งหมดมากันพร้อมหน้าแล้ว ก็ตัดเชือกที่แขวนเวทีไว้ทิ้งเสีย ปล่อยให้หญิงผู้โชคร้ายทั้งหมดทั้งหมด 55 คน ร่วงหล่นลงสู่ก้นเหวอย่างอำมหิต

4. Doryodo Ruins – Tokyo
ซากโบราณสถานแห่งนี้อยู่ในสวนสาธารณะ Otukayama Park เมืองฮาจิโอจิ จังหวัดโตเกียว ในสมัยเอโดะนั้น ที่นี่เคยเป็นวัดที่มีผู้คนเดินทางมาสักการะบูชาอย่างมากมาย เพราะตั้งอยู่ในเส้นทางสัญจรของผู้คนในสมัยนั้น
กระทั่งปี 1908 ประเทศญี่ปุ่นมีการสร้างทางรถไฟมากขึ้น เมื่อเทคโนโลยีทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น ผู้คนจึงเลิกเดินทางสัญจรผ่านเส้นทางนี้ วัดเลยไม่ค่อยมีคนเดินทางไปเยือนนับแต่นั้น แต่ความน่ากลัวที่แท้จริงไม่ได้เป็นเพราะวัดเริ่มร้างผู้คน แต่เพราะมีคนตายต่างหาก
ในปี 1963 เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นที่นี่ เหยื่อเป็นหญิงชราอายุ 82 ปี ที่คาดว่าน่าจะถูกฆ่าชิงทรัพย์ จากนั้นก็เริ่มมีคนได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวนในยามค่ำคืน
ปี 1973 มีหญิงสาวถูกฆาตกรรม โดยเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว ศพของเธอถูกฝังโดยมีก้อนหินปิดทับไว้อย่างมิดชิด แม้หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะพบศพ และนำร่างของเธอออกไปแล้ว แต่ผู้คนแถวนั้นยังคงได้ยินเสียงร้องออกมาจากป่า พูดว่า “ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันอยู่ตรงนี้”
ปี 1983 วัดจึงถูกทิ้งร้างอย่างถาวรจนถึงปัจจุบัน และแม้ความเจริญจะเข้ามาถึง พื้นที่แถวนี้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะแล้ว คนก็ยังเลือกที่จะไม่เดินเฉียดเข้ามาใกล้แถวนี้อยู่ดี…

5. SSS Curve – Okinawa
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีจำนวนผู้เสียชีวิต และผู้สูญหายทั้งทหาร และพลเรือนมากมาย และบนเกาะโอกินาว่าเองก็เป็นหนึ่งในสมรภูมิรบสำคัญเช่นกัน จึงไม่แปลกหากที่นี่จะมีบางส่วนบางมุมที่มีความลึกลับน่ากลัวแอบแฝงอยู่ แต่สถานที่ที่ขึ้นชื่อความหลอนมากที่สุดบนเกาะนี้ก็คือจุดที่เรียกว่า SSS Curve
ซึ่งเป็นทางเดินที่โค้งไปมาคล้ายตัว S นั่นเอง ไม่มีใครทราบเช่นกันว่าบริเวณนี้เคยมีอะไรเกิดขึ้น มีแค่เสียงลือเสียงเล่าอ้างเสมอว่า คนที่เดินผ่านไปมาแถวนี้มักจะมีความรู้สึกประหลาดๆ เกิดขึ้น เช่นจู่ๆ ก็สัมผัสถึงความเย็นยะเยียบขึ้นมาแถวๆ ไหล่ รู้สึกเวียนหัวคล้ายจะเป็นลม

6. Round Schoolhouse – Hokkaido
หนึ่งในสถานที่ผีสิงที่เดินทางไปพิสูจน์ได้ยากที่สุดในญี่ปุ่น เพราะที่ตั้งนั้นอยู่ลึกเข้าไปในแถบชนบทของฮอกไกโด ที่ตั้งของโรงเรียนนี้แต่เดิมเคยเป็นเหมืองถ่านหิน ช่วงปี 1960 หลังจากเหมืองปิดตัวลงแล้ว หมู่บ้าน และโรงเรียนจึงต้องปิดตัวลงไปด้วยเพราะไม่มีคนอาศัยอยู่อีกต่อไปแล้ว แม้จะไม่มีรายงานว่าที่นี่เคยเกิดเหตุอะไร แต่คนที่เข้าไปลองดีในนี้ไม่มีใครออกมาแบบปกติได้เลย

7. Hospital Ruins – North Kanto
โรงแรมร้างที่ไม่มีชื่อแห่งนี้ ไม่มีที่ตั้งที่ชัดเจนแน่นอน แต่ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่นักล่าท้าผีพอสมควร โรงแรมนี้สร้างตั้งแต่ปี 1960 มีทั้งหมด 4 ชั้น ถูกปิดตัวในปี 2008 พอถูกทิ้งร้างที่นี่ก็กลายมาเป็นสถานที่มั่วสุมประกอบพิธีกรรมประหลาดหลายอย่าง มีเรื่องเล่าด้วยว่า ครั้งหนึ่งเคยมีคนถูกกลุ่มลัทธินี้พุ่งเข้ามาทำร้าย ขณะที่กำลังเข้ามาล่าท้าผีในตึกนี้ด้วย

8. Hanging Ruins – Osaka
เรียกได้ว่าเป็นบ้านผีสิงที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางตึกสมัยใหม่มาก ด้วยซากบ้านสูง 4 ชั้นที่ถูกเพลิงไหม้ไปนานแล้ว แต่ก็ยังตั้งตระหง่านอยู่กลางย่านชินเซไค ย้อนกลับไปปี 2005 มีลูกจ้างร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตึกร้างนี้โทรแจ้งตำรวจ ว่าพบเห็นของประหลาดห้อยที่ชั้นบนสุดของตึก พอตำรวจไปดูก็ต้องผงะ เพราะนั่นคือซากศพนิรนาม ด้านข้างยังมีรองเท้าปริศนาแขวนอยู่ข้างๆ ศพด้วย

9. Camp Hansen – Okinawa
สงครามโลกครั้งที่สองสร้างการทำลายล้างจำนวนมากในญี่ปุ่นและทิ้งทหารที่เสียชีวิตไว้มากมาย หนึ่งในสถานที่ที่ได้เห็นสิ่งนี้คือ Camp Hansen ในโอกินาวา ค่ายนี้เป็นฐานนาวิกโยธินสหรัฐฯและสนับสนุนกองทัพนาวิกโยธิน 6,000
มันบอกว่าทหารโดดเดี่ยวปรากฏในความเหนื่อยล้าสงครามโลกครั้งที่เปื้อนเลือดและขอบุหรี่จากผู้ที่อยู่ใกล้เคียง การพบเห็นเหล่านี้ได้รับการรายงานอย่างกว้างขวางและแม้แต่นาวิกโยธินผู้กล้าหาญก็ปฏิเสธที่จะยืนเฝ้ายามที่ประตู ในที่สุดสิ่งนี้นำไปสู่การปิด Gate 3 ที่เห็นผีของทหาร

10. Okiku’s Well – Hyogo
ยานพาหนะที่ถูกทอดทิ้งทุกกิจกรรมอาถรรพณ์ในหนังสือได้รับการลือกันว่าเกิดขึ้นที่ Round Schoolhouse ในฮอกไกโด โรงเรียนถูกสร้างขึ้นในรูปทรงกลมที่โดดเด่นใน 1906 และทำงานเหมือนโรงเรียนประถม อย่างไรก็ตามมันปิดตัวลงใน 1970 และหลังจากนั้นก็ถูกทิ้งร้าง

11. Huis Ten Bosch – Nagasaki
Huis Ten Bosch เป็นสวนสนุกที่เป็นเครื่องบรรณาการให้กับญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ ในขณะที่สวนสนุกเป็นสถานที่ที่สวยงามด้วยทุ่งดอกทิวลิปและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสุข แต่ก็เป็นที่ตั้งของสถานที่ผีสิงที่สุดแห่งหนึ่งในซาเซโบะประเทศญี่ปุ่น บ้านผีสิงที่ได้รับความนิยมใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์สยองขวัญให้กับแขก มันใช้ความเป็นจริงเสมือนจริงเพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ มีชีวิตชีวาและทำให้คุณวิ่งด้วยความกลัว

หลังจากที่เราขนลุกไปกับประวัติของ เปิดสถานที่ญี่ปุ่นสุดสยองระดับตำนาน กันไปแล้ว ก็มาผ่อนคลายกับการเล่น Pan Jin Lian ที่จะช่วยให้คุณลืมความกลัวไปได้ แล้วถ้าคุณคิดว่าเล่นยากเรามีเทคนิค เล่นเกมสล็อตได้เงินง่าย มาให้คุณได้รู้ข้อมูลก่อน