ผีตายโหง อย่าทักเด็ดขาด

ผีตายโหง อย่าทักเด็ดขาด

ผีตายโหง อย่าทักเด็ดขาด เรื่องขนลุกนี้มาจากสมาชิกพันทิปท่านหนึ่งได้เผยประสบการณ์ของเพื่อนเขา ที่จำไปจนตายให้พวกเราได้อ่าน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาอ่านไปพร้อมๆกันเลย

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเพื่อนผู้ชายเยอะพอสมควร
แต่การที่คบเพื่อนผู้ชาย ไม่ได้หมายความว่าจะแรดนะ แต่แค่คิดว่า เพื่อนผู้ชายมันจริงใจกว่าเพื่อนผู้หญิงบางคนหน่ะ มีอยู่วันนึงเราและเพื่อนๆอีกประมาณ 4 คน

ก็ไปนั่งกินหมูกระทะกันที่บ้านเพื่อนคนนึง ตอนนั้นเป็นตอนเย็นวันศุกร์ พวกเราก็นั่งกินกันไปเรื่อยๆ และแน่นอนการกินในครั้งนั้น ไม่ได้มีการกินแค่หมูย่างแน่ๆ มันต้องมีกินเหล้า เบียร์ ตามประสาวัยรุ่น พวกเราก็กินกันไปได้สักพักหนึ่ง

แต่พวกเราก็สังเกตุได้ว่าเพื่อนเราคนนึง ขอใช้ชื่อย่อว่า น. ไม่กินเหล้าหรืออะไรก็ตาม ที่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์หรือยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเลย พวกเราก็เลยถามว่า “เห้ย ทำไมไม่กินเหล้าอะ” น.ก็ตอบว่าไม่กินอะ ไม่อยากกิน พวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็กินกันต่อ กินกันไปอีกสักพัก เราก็แบบเออเป็นคนขี้สงสัยก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไมมันไม่ยอมกินของพวกนี้ เราก็เลยไปถาม น. อีก คราวนี้เหมือน น.คงจะรำคาญแหละมั้ง เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนในวงนั้นฟังว่า

เมื่อก่อน ก่อนที่ น. จะย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ น.อยู่ภาคใต้มาก่อน และตอนนั้นน.ก็เหมือนกินเหล้า สูบบุหรี่ ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่ดีที่เด็กไม่ควรทำเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหลาย มีอยู่วันนึง แม่ของ น. จับได้ว่า น. มีพฤติกรรมไม่ดีแบบนี้เลยบอกกับ น.ว่า ปีหน้าก็จะต้องไปอยู่กรุงเทพฯแล้ว ถ้าทำตัวแบบนี้แล้วไปอยู่กรุงเทพฯคงจะเป็นหนักกว่านี้แน่เลย แม่ของ น. จัดการกับ น.ขั้นเด็ดขาด โดยการที่เอา น.เหมือนพาไปทำพิธีในแบบของเค้าคือ เอา น.ไปฝากกับผีตายโหงแล้วก็บอกว่า ถ้าต่อไปนี้ น.ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อีก ให้ผีตายโหงเอาตัวไปได้เลย ตั้งแต่นั้น น.ก็เลยไม่ยุ่งเกี่ยวอีกเลย

พอ น.เล่าจบ เราก็สองจิตสองใจว่าจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี ไอเราก็ปากพล่อยพูดขึ้นไปเลยว่า “ผีตายโหงหรอ มีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้” พอเราพูดจบเท่านั้นแหละ ก็มีเหมือนใครเอาอะไรเขวี่ยงเข้ามาโดนกระจกหน้าต่างของบ้าน แต่บอกก่อนนะคะว่า

บ้านที่เราไปนั่งกินกัน จะมีหมาที่เลี้ยงไว้อยู่หลายตัว ข้างๆบ้านจะมีเนื้อที่ไว้จอดรถและหลังบ้านจะเป็นเหมือนพื้นที่ที่มีหญ้าขึ้นสูง แต่เสียงที่ได้ยินมันมาจากทางหน้าต่างหลังบ้าน ซึ่งมันมีโอกาสยากที่จะมีใครหรืออะไรเขวี่ยงมาแต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร ได้แต่นั่งเงียบและก็ทำตัวตามปกติ แต่ในใจนี่คิดแล้วแหละว่า กูต้องโดนแล้วแน่เลย แต่ทำไงไม่อยากเสียฟอร์มว่าเราเริ่มกลัวเลยเฮฮากันตามปกติ พวกเราก็กินกันต่อจนเริ่มดึกขึ้น แต่ในหัวสมองเราตอนนั้นยังคิดเรื่องผีอยู่นะคะ เหตุการณ์บางอย่างมันเหมือนเป็นใจเหลือเกินในวันนั้น อยู่ๆไฟก็ดับ
พวกเราทุกคนมานั่งรวมตัวกัน แล้วมองไปทางหลังบ้าน ทางที่เรามองไปทางหลังบ้าน
จะมีเสาอยู่ต้นหนึ่ง มีเรา เพื่อนเราอีก1คน บอกว่าเห็นเหมือนมีคนยืนอยู่ข้างเสาเลย

คือเราเห็นสองคนพร้อมกันจริงๆ แต่เราไม่ได้ถามคนอื่นว่าเห็นกันมั้ย การตาฝาดมันเป็นไปได้ถ้าเราเห็นคนเดียว แต่นี่เราเห็นกับเพื่อนเราสองคนเลยคิดว่าไม่ได้ตาฝาดแน่นอน เรากับเพื่อนอีกสองคนก็เริ่มกลัวและแต่ต้องเงียบๆไม่ให้เตลิดกันหมด สักพักเหมือนมีอะไรดลใจพวกเราทั้ง4คนหันไปทางกำแพงข้างบ้าน

พวกเราเห็นเหมือนกันหมดว่ามีคนเหมือนจะปีนเข้ามาในบ้าน แต่มองยังไงก็ไม่น่าใช่คนแถวบ้านนี้ไม่มีคนสติไม่ดีนะ และก็เป็นบ้านที่เค้าจะอยู่กันแบบสันโดด ไม่มีใครยุ่งกับใครแล้วอีกอย่างเวลานั้นมันก็ดีกแล้วด้วย ตอนนั้นพวกเรากลัวมากก็นั่งจับกลุ่มกันจนกระทั่งไฟมา แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านเลย

ผีตายโหง ตามถึงโรงเรียน

ผีตายโหง ตามถึงโรงเรียน

ย้อนไปสมัยที่เราอยู่ ม.4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในชานเมืองของกรุงเทพ เพื่อนในชั้นเรียนตกลงกันว่าจะออกค่ายพัฒนาโรงเรียนในชนบท เพื่อเก็บชั่วโมงจิตอาสาให้ครบ เพื่อนๆทุกคนจึงปรึกษาหารือกันเรื่องจัดค่ายการเป็นอยู่และการเดินทาง ในที่ประชุมสรุปกันว่า เราจะไปทำกิจกรรมที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในปราจีนบุรี เราจะเดินทางกันโดยรถไฟ

เพื่อดูบรรยากาศข้างทางและประหยัดค่าใช้จ่าย ทุกคนดูตื่นเต้นและรอคอยค่ายครั้งนี้มากๆ
และวันออกเดินทางก็มาถึง บรรยากาศที่สถานีรถไฟก็จะประมาณว่า มีเซเลปจากวงการมายามารอขึ้นรถไฟ ทุกคนแต่งตัวให้นำแฟชั่นที่สุดเพื่อที่จะไปอวดน้องๆในค่าย เราก็แอบขำว่าพวกมึงทำเพื่ออะไร พอถึงเวลาที่รถไฟเทียบชานชาลา พวกเราก็แห่กันขึ้นทันที แย่งเบียดเสียดกับผู้คน มีทั้งคนไทยและก็เพื่อนบ้าน สรุปคือไปกัน30กว่าคนได้นั่งแค่4-5คนเอง

บรรยากาศในขบวนรถมีลูกเล็กเด็กแดง มีคุณป้าถือตะกร้าไข่แก้บน เสียงน้ำเย็นผ้าเย็นมั้ยคะ
ของแม่ค้าดังมาชัดเจน ถึงแม้แม่ค้าคนนั้นจะอยู่ที่โบกี้อื่น บรรยากาศก็ปกติทั่วไป แต่เราไปสะดุดที่ชายคนหนึ่งที่มีลายสักเต็มตัวสักไปถึงหน้าผาก ยืนคุยโทรศัพท์ดังมาก(คุยเป็นภาษาเขมร)เราฟังไม่รู้เรื่องหรอก และที่สำคัญคือพวกกรูรำคาญ

แต่ก็ได้แค่บ่นกับเพื่อนๆว่ารำคาญไอ้เหียกนี่ว่ะ  จนเดินทางมาถึงชุมทางชื่อดังแห่งหนึ่ง
ผู้คนก็ทยอยกันลงจนมีที่ว่างให้พวกเราได้นั่งพักให้หายเมื่อยซักหน่อย หลังจากที่เราได้นั่ง
และซื้อข้าวเกรียบปลาและปลาเส้นทาโร่ กินกันจนอิ่มแล้ว เราก็หลับพักสายตาไปพักนึง

ตื่นมาอีกทีเพื่อนก็ปลุกบอกว่าใกล้ถึงแล้ว ภาพที่เห็นคือสองข้างทางมันคือป่าทั้งนั้นเลยเว้ย
พอรถไฟจอดเรานึกในใจแมร่งเอ๊ย!!! กูจะไปทางไหนดีวะเนี่ย ในจังหวะนั้น
รถไฟกำลังเคลื่อนออก อีมู่ลี่เพื่อนเราตะโกนว่า เฮ้ย!!! จับมันไว้ๆ ทุกสายตาหันไปทางต้นเสียง

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อีมู่ลี่โดนฉกกระเป๋าตัง เรากับพวกเพื่อนๆรีบพุ่งไปคว้าตัวคนร้ายเพื่อนที่ชื่อ แฮมรีบคว้าคอเสื้อมันได้ บวกกับรถไฟที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออก คนร้ายมันจึงยอมปล่อยมือจากราวเหล็กแล้วร่วงลงมา พอมันหล่นตุ้บ! มันรีบสะบัดหลุดแล้ววิ่งข้ามทางรถไฟ ทันใดนั้นก็มีรถไฟที่พ่วงน้ำมันสวนมาพอดีกับจังหวะที่ ขบวนที่เรานั่งมายังไม่พ้นสถานี ทำให้คนร้ายมองไม่เห็นขบวนที่สวนมา และแล้วหายนะก็เกิดขึ้น คนร้ายโดนรถไฟพ่วงน้ำมันบดขยี้ร่างและศรีษะดังโพล๊ะ!!! เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมากรถไฟขบวนนั้นก็วิ่งต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนต่างอึ้งกับสิ่งที่เกิด

ด้วยความที่มีเลือดไทยสูง ไทยมุงอ่ะ เราก็เข้าไปดูสภาพศพเท่าที่พอจะจำได้บ้างคนร้ายก็คือชาวกัมพูชาคนที่คุยโทรศัพท์ดังๆ ที่เรารำคาญนั่นแหละ หลังจากนั้นมูลนิธิก็มาทำหน้าที่ของเขาไป เรื่องของคดีความเราไม่ขอพูดถึงละกันนะ

วันนั้นเราก็ได้รับการต้อนรับจากทางโรงเรียนเป็นอย่างดี ไปถึงเราก็จัดแจงที่พักที่พักของพวกเราคือห้องเรียนแล้วร่นโต๊ะนักเรียนไปไว้หลังห้อง กิจกรรมในวันนั้น เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ภายในใจทุกคนก็ยังช๊อคอยู่ ช่วงกินข้าวเย็นพวกเราอาบน้ำ และมาประชุมวางแผนกิจกรรมในวันต่อไป ด้วยความที่เราเป็นคนขี้แกล้ง

เราก็เลยพูดแหย่ไอ้แฮมว่า ถ้าไอ้คนเมื่อเช้ามันตามมาหักคอล่ะะทำไงวะไอ้แฮม ทุกคนก็ขำกันๆ ไอ้แฮมก็บอกว่ามันเป็นคนไม่ดี ตายๆไปก็ดีแล้ว ทุกคนก็ตกใจกับคำพูดของมัน บนใบหน้าที่คร่ำเครียดเหงื่อตก หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายเข้าห้องเรียนเพื่อไปพักผ่อน

เราแยกตัวออกไปเข้าห้องน้ำหลังอาคารเรียน ในขณะที่ทำธุระส่วนตัวอยู่นั้น ห้องน้ำข้างๆก็มีเสียงขันตก กีอกๆแก๊กๆ และเสียงน้ำจากก๊อกที่เปิดแรงสุดดัง ซู่ๆ เราก็เลยตะโกนไปว่า ใครอ่ะ กูเสร็จแล้วให้กูรอป่าวจะได้ขึ้นพร้อมกันแต่ก็ไม่มีใครตอบ

เรื่องสยองขวัญ : เรื่องสยอง ห้องน้ำในปั้ม
บทความที่น่าสนใจ : กระทิงVSหมี

ผีไทย